Skip to:
ในบรรดาผักทั้งหมด มีความเชื่อว่าผักใบเขียวเป็นผักที่มีประโยชน์มากมาย และคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด เพราะประกอบด้วยใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก แต่มีแคลอรีต่ำ อีกทั้งยังกินได้ทั้งแบบสด หรือปรุงสุกทำให้ผักกลุ่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของจานอาหารทั่วทุกมุมโลกอยู่เสมอ
ใบบีท Beta vulgaris
ใบสีเขียวของบีทรูท ที่หลายๆคนมักมองข้าม คือส่วนที่มีคุณค่าทางสารอาหารมากที่สุด หากปรุงสุกจะทำให้มีรสหวานขึ้น นิยมนำมาบดกับน้ำมันมะกอกหรือน้ำส้มบัลซามิค หรือจะนำไปอบกรอบก็อร่อยไม่แพ้กัน
บร็อกโคลีร็าบ Brassica ruvo
เชื่อว่าหลายๆคนต้องคิดว่าบร็อกโคลีร็าบ เป็นผักที่เกี่ยวข้องกับบล็อกโคลีแน่ๆ จากชื่อเรียกที่ออกเสียงคล้ายกัน หรือแม้แต่ลักษณะลำต้นที่ยาว และมีหัวเล็กๆ คล้ายบร็อกโคลี แต่ที่จริงแล้ว บร็อกโคลีร็าบ เป็นพืชตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับผักกาดและมัสตาร์ด โดยใบมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำเหมือนผักกาด มีรสชาติเผ็ดร้อนและขมเล็กน้อย
เคล Brassica oleracea var. sabellica
เคล ก็เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับกะหล่ำและผักกาด แข็งแรง และสามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำได้ถึง -15 องศาเซลเซียส มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มักนำมากินเป็นเครื่องเคียงร่วมกับผักอื่นๆ หรือใช้เป็นวัตถุดิบในเมนูสตู แกง หรือซุป บางคนอาจนำมาแปรรูปให้อยู่ในลักษณะแป้งเพื่อปรุงอาหาร ทำเป็นเครื่องดื่มสมูตตี้ หรือทำเป็นแผ่นกรอบเพื่อรับประทานเป็นของว่างได้อีกด้วย
มะรุม Moringa oleifera
มะรุม ถูกเรียกอีกอย่างว่าดรัมสติ๊ก หรือ ต้นฮอสแรดิช ถูกยกให้เป็น “ต้นไม้มหัศจรรย์” เพราะมีประโยชน์มากมาย ใบของมะรุมมีธาตุอาหารสูงและเติบโตได้ตลอดทั้งปี หลายส่วนของมะรุม นำมาทำเป็นยาแผนโบราณในอินเดียและเอเชีย และเมื่อไม่นานนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะรุมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
บ็อกชอย (ผักกาดจีน) Brassica rapa subsp. Chinensis
บ็อกชอย หรือที่รู้จักในชื่ออื่นๆ เช่น หูม้า, ผักกาดเซเลอรี่จีน และผักกาดมัสตาร์ดขาว นิยมปลูกทั้งในจีนและแถบเอเชียตะวันออกตลอดปี มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบและมีรสอ่อนคล้ายผักกาด
ก้านสีขาวและใบสีเขียวเข้มของมันมีวิตามินเคและซีสูง โดยต้นกล้าของบ็อกชอยจะสามารถกินส่วนของก้านสดๆได้ หรือนำไปปรุงสุก อย่างการต้ม ผัด หรือนึ่ง จะช่วยรักษารสชาตินุ่มนวลและสัมผัสกรอบๆ ได้เช่นกัน
ใบฟักทอง Cucurbita pepo
ใบฟักทองมีรสชาติเหมือนหน่อไม้ฝรั่งผสมกับบร็อกโคลีและปวยเล้ง โดยต้นอ่อนสามารถทานสดๆ ได้ ใบฟักทองบางชนิดนั้นอาจมีรสชาติขม ในแถบแอฟริกาตะวันตกมักใส่ใบฟักทองลงในซุปหรือสตู หรือหากนำไป นึ่งหรือผัดแบบใช้น้ำมันน้อยจะช่วยดึงรสชาติหวานของใบฟักทองออกมาได้
กะหล่ำปลีสีม่วง Brassica oleracea var. capitata f. rubra
แม้จะถูกเรียกว่ากะหล่ำปลีสีม่วง แต่จริงๆแล้วมันสามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพกรด-ด่างของดิน โดยกะหล่ำปลีสีม่วงจะเติบโตได้ดีในแสงแดดและดินร่วนที่ชุ่มน้ำ สามารถกินได้ทั้งแบบดิบและสุก นิยมเอามาทำเป็นสลัด ทอดใส่ในแซนด์วิชหรือเบอร์เกอร์ หรือจะนำมาปรุงกับหัวหอมเพื่อเป็นเครื่องเคียงก็ได้ ความพิเศษของกะหล่ำสีม่วงนี้ คือ เวลาสุกใบของมันจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เราสามารถเติมน้ำส้มสายชู หรือจะใช้ผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อจะรักษาสีแดงของมันไว้
ปวยเล้ง Spinacia oleracea
ปวยเล้งเป็นที่นิยมอย่างมากตั้งแต่ปี 1930 จากการ์ตูนดังอย่างป๊อบอาย ที่กินปวยเล้งเพื่อเพิ่มพลังความแข็งแกร่ง และแม้ว่าพลังของป๊อบอายจะจะดูเกินจริงไปสักนิด แต่จริงๆแล้วผักชนิดนี้ ก็ประกอบด้วยสารอาหารชั้นดี ทั้งวิตามินเอ ซี และเค โฟเลต (วิตามินบี) พร้อมด้วยธาตุเหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ โดยปวยเล้งเป็นพืชตะกูลเดียวกับบีท ชาร์ด และควินัว โตเร็วและเหมาะกับภูมิอากาศเย็นๆ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี
วอเตอร์เครซ Nasturtium officinale
วอเตอร์เครซถูกจัดให้เป็น “Super food” เพราะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนและวิตามินซี และยังมีวิตามินเอและเคสูง มีรสฉุน ขมนิดๆ และเผ็ดร้อน จะนำไปปรุงโดยการผัดแบบใช้น้ำมันน้อยหรือจะกินแบบสดๆ ก็ได้เช่นกัน และยังเหมาะกับการใส่ลงในซุป สลัด ทาร์ต และออมเล็ตอีกด้วย